พาเที่ยวบินตรงกรุงเทพ – อังกฤษ – เวลล์ – สก็อตแลนด์ 8 วัน

อังกฤษ, เวลล์ แบะสก็อตเเลนด์ ตั้งอยูบนเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ Great Britian นั่นเอง

สำหรับ England หรือ ประเทศอังกฤษนั้นถือได้ว่าเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุด มีประชากรมากที่สุดและยังมีพื้นที่มากที่สุดบนเกาะ Great Britain ด้วย มีชื่อเสียงในด้านกีฬาฟุตบอลในระดับโลกและมีชื่อเสียงที่โด่งดังในอีกหลายๆด้าน ประเทศอังกฤษจึงเป็นประเทศที่มีคนรู้จักมากที่สุด

วันแรกที่หนึ่ง กรุงทพฯ-ลอนดอน (อังกฤษ)

12.50 ออกเดินทางจากกรุงเทพบินตรงสู่กรุงลอนดอน โดยสายการบิน……… เที่ยวบินที่

18.25 เดินทางถึงสนามบินฮีทโธว์ กรุงลอนดอน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกาการ จากนั้นตรวจรับสัมภาระและเข้าที่พัก

วันที่สอง ลอนดอน-สโตนเฮ้นจ์-บาธ-คาร์ดิฟ (เวลล์)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองแอมส์เบอรรี่ ( Amesbury ) ในเขตทุ่งหญ้าแอมเบอร์รี่ ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ) ชมเสาหินสโตนเฮนจ์ ( Stonehege) กองหินประหลาด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคก่อนประวัติศาสตร์มากกว่า 4,000 ปีมาแล้ว ที่ปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปหาข้อเท็จจริงได้ว่าใครสร้างเพื่ออะไร มีแต่การวิเคราะห์คาดเดา จากนั้นเดินทางสู่เมืองบาธ เมืองอาบน้ำแร่ที่มีอิทธิพลมาตั้งแต่ยุคเรืองอำนาจของอาณาจักรโรมันโบราณ ( ใช้เวาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง )

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

บ่าย นำเช้าชมภายในของโรงอาบน้ำแร่ร้อนที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคโรมันโบราณ โดยมีการตกแต่งอย่างงดงาม ปัจจุบันน้ำพุร้อนนี้ก็ยังมีปริมาณ นับล้าน นับแสนแกลลอน ด้วยอุณภูมิระดับ 45-46 องศาเซลเซียส ซึ่งหลักฐานบ่อน้ำพุร้อนและซากอาคารเก่าแก่ที่หลงเหลืออยู่นี้ ทำให้เมืองบาธได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1987

พิพิธภัณฑ์น้ำแร่ร้อนโรมัน ( Roman Bath Museum ) ซึ่งมีประวัติศาสตร์การค้นพบที่น่าสนใจ ปัจจุบันเป็นกลุ่มอาคารสำคัญของเมือง คือบริเวณที่เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำแร่ร้อนคิงส์  ส่วนที่สองคือ บริเวณวัด และส่วนที่สามคือบริเวณที่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองใช้บริการน้ำแร่ ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ บ่อน้ำแร่ร้อนเย็น ห้องอบไอน้ำ และส่วนที่เป็นเตอร์กิชบาธ ( Turkish Bath ) จากนั้นชมอาคารบ้านเรือนที่ถูกสร้างขั้นในยุคจอร์เจี้ยน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งอาคารรอยัล เครสเซ่น กลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตา ทำให้บาธมีเสน่ห์ไม่น้อย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองบริสตอล เมืองในอังกฤษที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเวลส์ เพียงแค่ช่องแคบกั้น ข้ามสะพานเซเวรรน์ ผ่านช่องแคบบริสตอลเข้าสู่เมืองคาร์ดิฟ เมืองหลวงของแคว้นเวลล์ หนึ่งในเครือจักรภพ ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ) กลางใจเมืองเป็นที่ตั้งของปราสาทคาร์ดิฟที่พระเจ้าวิลเลี่ยมผู้พิชิตได้มีรับสั่งให้สร้างขึ้นจากรากฐานเดิมของปราสาทโรมันโบราณ และได้รับการตกแต่งต่อเติมเรื่อยมา ถูกล้อมรอบไว้ด้วยกำแพงโบราณ จากนั้นชมเมืองคาร์ดิฟ เมืองที่เจริญมาตั้งแต่ยุคสมัยที่ชาวโรมันมีอิทธิพลอยู่ในบริเวณนี้ จนกระทั่งยุคศตวรรษที่ 20 ก็ยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของโลกในเรื่องการขนส่งถ่านหิน ชมศาลาว่าการเมืองและพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารโบราณเก่าแก่ ชมเมือง สวนสาธารณะคาร์ดิฟ สนามกีฬามิลเลนเนียม อาคารที่ทำการรัฐ เดินเล่นในย่านถนนควีนส์ แหล่งช้อปปิ้งของเมือง

ค่ำ รับประทานอาหารอาหารค่ำ

วันที่สาม คาร์ดิฟ-สแตรฟอร์ด-ลิเวอร์พู

เช้า รับประทานอาหารเช้า

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองสแตรทฟอร์ด อัพอน เอวอน (Strafford-Upon-Avon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง) เมืองสแตรทฟอร์ดเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเอวอนซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการเป็นเมืองแห่งวรรณกรรมอังกฤษอันเป็นบ้านเกิดของวิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ กวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษซึ่งเป็นที่ยกย่องทั่วไปว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลก สามารถถ่ายรูปภายนอกกับบ้านของวิเลี่ยม เช็คสเปียร์

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน

บ่าย เดินทางสู่เมืองลิเวอร์พูล ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ) นอกจากเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอลแล้ว ยังเป็นถิ่นกำเนิดของวงดนตรีสี่เต่าทอง หรือ เดอะบีทเทิลที่โด่งดังและมีชื่อเสียงก้องโลก ชมย่านท่าเรืออัลเบิร์ก (Albert Dock) แห่งลิเวอร์พูลที่เป็นเขตมรดกโลก ตึกอลังการสามหลัง (The Three Graces ) ที่ประกอบไปด้วยตึกบริษัทเรือ Cunard ตึกการท่าแห่งลิเวอร์พูลและตึก Royal Liver ที่เป็นสัญญลักษณ์แห่งเมือง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ

วันที่สี่ เพรสตัน-เอดินเบิร์ก (สกอตแลนด์)

เช้า รับประทานอาหารเช้า

เดินทางสู่เมืองเพรสตัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ) เมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ถึง 1,000 ปี มีอาคารเก่าแก่ที่โดดเด่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารสำหรับการอนุรักษ์ถึง 770 แห่งเป็นเมืองที่มีพื้นที่กว้างขวางตั้งแต่ทุ่งมัวร์ในหุบเขาเบคอนและพื้นที่ป่าธรรมชาติอันหลากหลาย พิพิธภัณฑ์และหอศิลปะฮาร์ริส พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติ ตลาดเฟล็กมาร์เก็ตอันเก่าแก่ โรงละครชาร์เตอร์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

บ่าย เดินทางขึ้นเหนือสู่เอดินเบิร์ก Edinburg ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ) เมืองหลวงแห่งสกอตแลนด์ ที่แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรมาตั้งแต่ปี ค. ศ 1707 แต่ชาวสก็อตก็ยังคงรักษาขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมที่ดีงามของบรรพบุรุษไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นผ้าลายสก็อต ปี่สก็อต หรือแม้แต่การแต่งตัวแบบดั้งเดิมของชายชาวสก็อต ก็ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ห้า ปราสาทแห่งเอดินเบิร์ก-นิวแคสเซิล

เช้า รับประทานอาหารเช้า

จากนั้นชมตัวเมืองเอดินเบิร์ก ที่ตั้งอยู่ในบริเวณของแนวภูเขาไฟในอดีต ทำให้ตัวเมืองอยู่บนที่สูงและยังคงเป็นเมืองหลวงที่ยังคงบรรยากาศในอดีตไว้ได้เป็นอย่างดี จากนั้นขึ้นชมปราสาทแห่งเอดินเบิร์กที่งดงามและเป็นสถานที่เก็บรักษามหามงกุฎแห่งราชวงค์ เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก็อต เคยถูกทำลายลงหลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ได้รับการบูรณะและสร้างใหม่ให้กลับสู่ความสง่าสงามดังเดิม และยังถือว่าเป็นจุดชมเมืองเอดินเบิร์กได้เป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นเนินเขาสูงที่มองเห็นทั่วทุกมุมเมือง และยังได้ขนามนามว่าเป็นเมืองเอเธนส์แห่งทิศเหนือเนื่องจากสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่คล้ายคลึงกับวิหารแพนธีออนในประเทศกรีซ

new castle

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

จากนั้นเดินทางสู่เมืองนิวแคสเซิล อัพอน ไทน์ Newcastle-Upon-Tyne (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษบนริมแม่น้ำไทน์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง พร้อมชมความสวยงามของเมืองที่ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการค้าแกะและถ่านหิน ต่อมายังได้เป็นที่รู้จักในฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางในการต่อเรือในอดีตและชมความงดงามอื่นไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำไทน์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ

วันที่หก นิวแคสแซล-ยอร์ก-อ็อกซ์ฟอร์ด

เช้า รับประทานอาหารเช้า

จากนั้นเดินทางสู่ยอร์ก York ( ใช้เวลาเดินอทางประมาณ 2 ชั่วโมง ) ตั้งอยู่ในบริเวณที่แม่น้ำอูสและแม่น้ำฟอสส์ เป็นเมืองสุดท้ายที่เป็นเมืองมรดกด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอังกฤษ ในอดีตเป็นเมืองโบราณในยุคโรมันที่ยังมีซากโบราณสถานโรมันอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี เคยได้รับรางวัลเมืองท่องเที่ยวแห่งยุโรปเมือปี 2007 มีทั้งกำแพงเมืองเก่าแก่และมหาวิหารศิลปะแบบกอธิคมีชื่อว่า York Minister นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ได้รับอิธิพลมาจากพวกโรมัน ไวกิ้ง และยุโรปชาติอื่นๆที่เคยเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ด้วย

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

บ่าย เดินทางสู่ บิซส์เตอร์เอ้าท์เล็ต วิลเลจ Bicester Outlet Village ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ) ชมสินค้าแบรนด์เนมต่างๆทั้งของอังกฤษและในยุโรป เช่น Anne Fontaine Armanie Bally Bodum Bose Burberry Calvin Klein D&G DKNY Diessel Dior Dunhill Emenegiklo Fendi Gucci Guess Hugo Boss Jaeger Jigsaw Kipling L’Occitaine Levi’s Max Mara Missoni Molton Brown Mulberry Paul Smith เป็นต้น

หลังจากนั้นเดินทางสู่เมืองอ็อกฟอร์ด เมืองแห่งยอดเขาแหลมชวนฝัน ตามคำที่เรียกขานโดยกวีชื่อดังแมทธิวอาร์โนลด์เพื่อกล่าวถึงยอดโบสถ์ที่งดงามและสถาปัตยกรรมอันกลมกลืนของอาคาร ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที )

วันที่เจ็ด อ็อกฟอร์ด-ลอนดอน-ทาวเวอร์ลอนดอน

เช้า รับประทานอาหารเช้า

ชมเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด เมืองแห่งมหาวิทยาลัย อาคารสร้างด้วยหินสีทองและสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจที่สุดของอังกฤษ เป็นที่ตั้งของโบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองและต้นกำเนิดของหนังสิอออลิซที่โด่งดังของเลวิส แคร์โรล หรือ เกรทฮอลล์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งได้รับแรงบัดาลใจมาจากสถาปัตยกรรม จากนั้นเดินทางกลับสู่กรุงลอนดอน ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ) เมืองหลวงแห่งสหราชอาณาจักรและเมืองใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป มีประชากรกว่า 7.5 ล้านคน ถือเป็น 1 ในเมืองศูนย์กลางทางด้านธุรกิจ การเมืองและวัฒนธรรมของโลก การสื่อสาร บันเทิง แฟชั่นและศิลปะ ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่ามีอิทธิพลไปทั่วโลก

oxford

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

จากนั้นเข้าชมทาวเวอร์ออฟลอนดอน (Tower of London) ป้อมปราการและปราสาทเก่าแก่แห่งแรกที่สร้างขึ้นตั้งแต่กษัตริย์วิลเลี่ยมผู้พิชิต ผู้ปกครองอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1006 ชมเพชร Star of Africa  เครื่องเพชรล้ำค่าประจำราชสำนักที่ใช้ในการประกอบพิธีสำคัญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกว่า 300 กะรัตที่ประดับอยู่หน้ามงกุฎและคฑาอาญาสิทธิ์แห่งองศ์ราชินีซึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่ จากนั้นช้อปปิ้งบนถนนอ็อกฟอร์ด ย่านช้อปปิ้งใหญ่ของลอนดอนที่จะได้เลือกซื้อสินค้าคุณภาพเยี่ยมจาก มาร์ก แอนด์ สเปนเซอร์ เซลฟริดจจ์ และห้างอื่นๆอีกมากมาย

วันที่แปด ลอนดอน-ชมเมือง-บริติชมิวเซี่ยม-สนามบิน

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

หลังจากนั้นชมมหานครลอนดอน ที่ยิ่งใหญ่ เริ่มจากพระราชวังบัคกิ้งแฮมที่ประทับแห่งพระราชินีอังกฤษ ชมการเปลี่ยนยามของทหารรักษาพระองค์ในชุดเครื่องแบบเต็มยศ สวมหมวกพูสีดำแต่จะเปลี่ยนชุดสีเทาในช่วงฤดูหนาว หลังจากนั้นชมหอนาฬิกาบิ๊กเบน สัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงลอนดอนที่ตั้งอยู่เคียงข้างอาคารรัฐสภาที่สวยงามของแม่น้ำเทมส์ ชมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่งทำเนียบนายกรัฐมนตรี จัตุรัสทราฬการ์ อนุสรณ์แห่งสงครามทราฬลการ์ของท่านลอร์ดเนลสัน พิคคาเดลลี เซอร์คัส ย่านโซโห มหาวิหารเซนต์พอล

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

หลังจากนั้นชมบริติชมิวเซียม British Museum หรือที่นิยมเรียกกันว่า พิพิธภัณฑ์อังกฤษมนกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นหนึงในพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมนุษย์ที่สำคัญที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก มีการก่อตั้งขึ้นในปี ค. ศ. 1753 ในเบื้องต้นวัตถุที่เก็บรวบรวมไว้ส่วนใหญ่เป็นของสะสมของเซอร์แฮนส์ สโลนซึ่งเป็นแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้บริการแก่สาธารณะเป็นครั้งแรกในวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1759 ในมงตากูเฮาส์ เมืองบลูมส์เบอร์รี่ กรุงลอนดอน อันเป็นสถานที่ตั้งของอาคารพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันบริติชมิวเซียมเป็นแหล่งรวบรวมวัตถุต่างๆจากทุกทวีป จำนวนกว่า 7 ล้านชิ้น ซึ่งล้วนมีชื่อเสียงและมีการบันทึกเรื่องราวของวัฒนธรรมมนุษย์จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน  สามารถเลือกซื้อและเลือกชมสินค้าที่ระลึกได้

เย็น รับประทานอาหารเย็นและออกเดินทางสู่สนามบินฮีทโธรว์

สนใจโปรโมชั่นนี้

โปรโมชั่น อื่นๆ