เรียนภาษาที่ไอร์แลนด์

ประเทศไอร์แลนด์

ไอร์แลนด์ ( Ireland ) เป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ทิศตะวัน  ออกของประเทศ ติดกับทะเลไอริชซึ่งขั้น กลางระหว่าง ไอร์แลนด์ กับสหราช อาณาจักร สำหรับพื้นที่ด้านบนสุด ของเกาะขนาดหนึ่งในห้าเป็นอาณาเขตของ ไอร์แลนด์ เหนือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร พื้นที่ของประเทศมีขนาด 70 ,282 ตารางกิโลเมตร  ไอร์แลนด์มีจำนวนประชากรประมาณ 4.2 ล้านคน คนไอริชส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชนพื้นเมือง พูดภาษาเกลิค ( Gaelic ) และการผสมผสานของกลุ่มชนเชื้อสายอังกฤษ สก๊อต ฝรั่งเศส แองโกล-นอร์แมน ไวกิ้ง และเวลส์ โดยมีวัฒนธรรมเควทิก ( Celtic ) และภาษาเกลิคเป็นเอกลักษณ์สำคัญ ของประเทศ  ตามรัฐธรรมนูญไอร์แลนด์กำหนดให้ภาษาไอริช หรือเกลิค เป็นภาษาประจำชาติและ เป็นภาษาราชการอันดับแรก และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการอันดับสอง แต่ในทางปฏิบัติ ประชาชนทั่วไปพูดและใช้ภาษาอังกฤษ มีชาวไอริชจำนวนน้อยมากที่ยังคงพูดหรือใช้ภาษาเกลิค ไอร์แลนด์ยังเป็นประเทศเดียวในสหภาพยุโรปที่พูดภาษาอังกฤษสกุลเงินที่ใช้คือยูโร

ลักษณะภูมิประเทศ

ประเทศไอร์แลนด์ตั้งอยู่ที่สุดขอบทางตะวันตกของทวีปยุโรปในมหาสมุทรแอตแลนติก และถูกแยกออกจากเกาะบริเตนใหญ่โดยทะเลไอริช เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่มีทุ่งหญ้าและเนินเขาเขียวชอุ่มมากมาย ไอร์แลนด์จึงเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะมรกต” และบนพื้นที่ของเกาะนี้มีสิ่งต่าง ๆ นำเสนอมากมายตั้งแต่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ความร่ำรวยทางวัฒนธรรม ภูมิทัศน์ที่งดงามแปลกตา ปราสาทและซากโบราณสถานอันหลากหลาย ไปจนถึงเมืองที่มีชีวิตชีวาและทันสมัย

Why study in Ireland? 

นอกจากภาษาไอริชแล้ว ไอร์แลนด์ยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ นักเรียนจะได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันนอกจากนี้ ความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของภูมิประเทศของไอร์แลนด์ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่อาศัยอยู่มารุ่นสู่รุ่น ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจนจากวรรณกรรมไอริช บทเพลง ภาพวาดรวมถึงภาพถ่ายต่าง ๆ ของประเทศไอร์แลนด์ เมื่อท่องเที่ยวในไอร์แลนด์ คุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับสีเขียวสดใสของเนินเขาและทุ่งหญ้า ชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะขรุขระสวยงาม และท้องฟ้าที่สวยงามน่าตื่นตะลึงไม่ว่าจะเป็นที่มีค่อนข้างครึ้มมีเมฆหรือแดดจัดสดใส  และไอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่มีสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย นักเรียนสามารถใช้ชีวิตระหว่างเรียนได้อย่างเรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติ และระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ  นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถทำงานระหว่างเรียนได้อีกด้วย (โดยนักเรียนสามารถทำงานได้อย่างถูกกฏหมาย 20 ชม./สัปดาห์)

ภูมิอากาศ

สภาพภูมิอากาศของไอร์แลนด์ขึ้นกับอิทธิพลของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นสำคัญ ดังนั้นสภาพภูมิอากาศจึงสามารถแปรผันไปมาและแทบจะไม่มีสภาพแบบร้อนจัดหรือหนาวจัดสุดขั้ว ไม่เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรปที่อยู่ในละติจูดเดียวกัน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปีคือสภาพอากาศเย็นสบายที่ประมาณ10องศาเซลเซียส 

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายน) อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ระหว่าง 8-12 องศาเซลเซียส เดือนเมษายนเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดของฤดูใบไม้ผลิ

ในช่วงฤดูร้อน (เดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ระหว่าง 18-20 องศาเซลเซียส เดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นที่สุดและมีแสงแดดยาวนาน 18 ชั่วโมง ท้องฟ้าจะมืดสนิทหลัง 5 ทุ่มเท่านั้น
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไอร์แลนด์ เหล่านักท่องเที่ยวและนักเดินทางจะได้มีความสุขกับกิจกรรมกลางแจ้งและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบาน อากาศอันสดชื่นและแสงแดดอันสดใสอบอุ่น

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ระหว่าง 14-18 องศาเซลเซียส
ในช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ระหว่าง 4-8 องศาเซลเซียส เดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่อากาศเย็นที่สุดโดยบางครั้งอุณหภูมิจะต่ำลงไปจนถึงช่วงติดลบ โดยปกติจะไม่ค่อยมีหิมะตกในประเทศไอร์แลนด์

** ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวถือว่าเป็นฤดุกาลที่นักท่องเที่ยวน้อย สถานที่ท่องเที่ยวกลางแจ้งหลายๆแห่งอาจปิดลง แต่โดยรวมแล้วนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในอาคาร เช่น นิทรรศการและเทศกาล รวมทั้งยังได้ประโยชน์จากราคาที่ลดลงของที่พักต่างๆด้วย       

กิจกรรมยามว่างในไอร์แลนด์

เดินชมธรรมชาติและถ่ายรูป หรือเดินในดับลิน ทานอาหาร ดื่มด่ำกับดนตรีไอริชแบบสดๆ  

Dublin เมืองดับลิน

ดับลินเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของไอร์แลนด์ตั้งอยู่    บริเวณปากแม่น้ำลิฟฟีบริเวณชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ประวัติศาสตร์ของดับลินสามารถย้อนรอยไปได้ถึงประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาลสมัยที่ชาวเคลต์มาตั้งค่ายอาศัยที่นี่ หลังจากนั้นประมาณ 1,000 ปี ชาวไวกิ้งได้เข้ามารุกราน แต่งงานกับชาวพื้นถิ่น และก่อสร้างท่าเรือค้าขายสำคัญขึ้นในบริเวณนี้ที่แม่น้ำพอดเดิลไหลมารวมกับแม่น้ำลิฟฟีในดับลิน (dubh linn หมายถึงสระสีดำในภาษาไอริช)

ดับลินได้รับประกาศให้เป็นเมืองแห่งวรรณกรรมจากยูเนสโก ดับลินยังมีชื่อเสียงในเรื่องดนตรี ศิลปะ และสีสันยามค่ำคืน ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ระดับโลกหลายแห่ง มีร้านอาหารชั้นเลิศมากมาย และยังเป็นแหล่งรวมการแสดงและความบันเทิงหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ดนตรีร็อค,คอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิคไปจนถึงการเต้นแบบไอริช

สถานที่ท่องเที่ยว

ย่านเทมเพิลบาร์

ย่านเทมเพิลบาร์เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมบริเวณฝั่งด้านใต้ของแม่น้ำลิฟฟีที่เต็มไปด้วยถนนที่ปูด้วยหินและซอกซอยสลับซับซ้อน ย่านเทมเพิลบาร์เป็นหนึ่งในพื้นที่บริเวณที่เก่าแก่ที่สุดของดับลิน จริง ๆ แล้วตัวเมืองดับลินถือกำเนิดโดยรอบย่านนี้ ปัจจุบันย่านเทมเพิลบาร์เป็นบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวมาเดินเยี่ยมชมมากที่สุดของดับลินโดยถนนจะเต็มไปด้วยร้านค้า, คาเฟ่, แกลลอรีและผับชั้นนำมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนของปีที่นี่จะเต็มไปด้วยคนที่มาท่องเที่ยวดูสีสันและวัฒนธรรมรวมไปถึงนักท่องราตรี ที่นี่เหล่านักแสดง, ศิลปินริมถนน, ตลาดกลางแจ้งและนิทรรศการต่าง ๆ รวมกันสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้กับย่านนี้เสมอ มีทติ้งเฮ้าส์สแควร์เป็นพื้นที่ยอดเยี่ยมที่โอบล้อมไปด้วยคลังภาพถ่ายแห่งชาติ และสถาบันภาพยนตร์ไอริช มีทติ้งเฮ้าส์สแควร์เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเทศกาล, การแสดง, ฉายภาพยนตร์, จำหน่ายสินค้า รวมไปถึงงานอีเว้นต์ต่าง ๆ ย่านเทมเพิลบาร์เป็นย่านที่มีบาร์และผับหนาแน่นที่สุดในเมืองดับลิน เป็นบริเวณที่นักดนตรีริมถนนเล่นดนตรีอย่างสนุกสนาน

มหาวิหารเซนต์แพทริค

มหาวิหารเซนต์แพทริคเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมที่สุดของดับลิน มหาวิหารถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญแพทริค ผู้เป็นนักบุญผู้อุปถัมภ์ของไอร์แลนด์ มหาวิหารตั้งอยู่ติดกันกับบ่อน้ำที่นักบุญแพทริคใช้ทำพิธีบัพติศมาให้ผู้รับเชื่อในศาสนาคริสต์ในขณะที่เขาเดินทางมายังดับลิน โบสถ์ประจำเขตเซนต์แพทริคนี้ได้รับการประกาศเป็นวิทยาลัยในปี 1191 และยกระดับเป็นมหาวิหารในปี 1224 อาคารที่เห็นในปัจจุบันเป็นอาคารสมัย  ปี 1220 และเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่อาคารที่คงเหลือมาจากยุคกลางของดับลิน บริเวณมหาวิหารยังเป็นที่ฝังศพของหนึ่งในชายที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอร์แลนด์ โจนาธาน สวิฟท์ ผู้ประพันธ์นวนิยายเรื่องกัลลิเวอร์ผจญภัยและผู้อาวุโสของที่นี่ ปัจจุบันมหาวิหารเซนต์แพทริคเป็นมหาวิหารประจำชาติ มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอร์แลนด์ และยังคงเป็นสถานที่นมัสการพระเจ้า และรองรับผู้เข้าชมสถาปัตยกรรมรวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์

ทรินิตี้คอลลเลจ ดับลิน

ทรินิตี้คอลลเลจ ดับลินได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ทรงเกียรติที่สุดของไอร์แลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี 1592 ตามคำสั่งของพระราชินีอลิซาเบธ ทรินิตี้คอลเลจ ดับลินถือว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมชิ้นยอดเยี่ยมและเป็นสถานที่ที่ประเพณีดั้งเดิมเชื่อมต่อเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมที่สุดของไอร์แลนด์โดยมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 500,000 คนต่อปีเข้าเยี่ยมชมบุ๊ค ออฟ เคลส์ (Book of Kells) ซึ่งถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของทางมหาวิทยาลัย  บุ๊ค ออฟ เคลส์ถูกเขียนโดยพระคริสเตียนชาวไอริชในยุค 800 AD และยังเป็นหนึ่งในภาพเขียนคัมภีร์โบราณที่สวยที่สุดในโลก บุ๊ค ออฟ เคลส์ ถูกจัดแสดงไว้ที่ลอง รูม (Long Room) ในอาคารห้องสมุดเก่า ลอง รูมเป็นห้องสมุดที่มีความยาวถึง 65 ม. มีเพดานโค้งสวยงาม ผลงานชิ้นเอกของโธมัส เบิร์คนี้ยังประกอบไปด้วยชั้นหนังสืองดงามเรียงรายที่บรรจุหนังสือโบราณและเอกสารต่าง ๆ ที่เขียนด้วยลายมือรวมกว่า 250,000 เล่ม ลอง รูม ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในห้องสมุดที่สวยงามที่สุดในโลก

มหาวิหารไครสต์เชิร์ช

มหาวิหารไครสต์เชิร์ชถูกก่อตั้งเมื่อปี 1028 ในสมัยนั้นพื้นที่ส่วนนี้เป็นบริเวณชายขอบด้านใต้ของการตั้งรกรากของชาวไวกิ้งส์ในดับลิน เมื่อเริ่มแรกที่นี่เป็นอาคารโบสถ์ไม้ที่ไม่มีสภาพคงทนนัก ชาวนอร์แมนได้สร้างเป็นมหาวิหารขึ้นด้วยหินจำนวนมาก ภายใต้การคำสั่งของริชาร์ด เดอร แคลร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในนามสตรองโบว์ ขุนนางชาวแองโกล-นอร์แมนผู้เข้ามารุกรานไอร์แลนด์ในปี 1170 มหาวิหารไครสต์เชิร์ชถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในดับลิน ภายในมหาวิหารนักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับการตกแต่งภายในอันงดงามและห้องใต้ดินที่ใช้ฝังศพสมัยยุคกลางอันน่าตื่นตาตื่นใจ ห้องใต้ดินนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ และยังเป็นโครงสร้างที่รอดพ้นการถูกทำลายจากสงครามต่าง ๆ มหาวิหารไครสต์เชิร์ชยังคงเป็นสถานที่ที่ประชาชนเข้ามานมัสการและทำพิธีทางศาสนา คณะร้องเพลงประสานเสียงของมหาวิหารยังเป็นหนึ่งในคณะที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอร์แลนด์     

  

หอศิลป์แห่งชาติ National gallery of Ireland

ถูกก่อตั้งโดยพระราชบัญญัติของรัฐสภาในปี 1854 และเปิดให้ประชาชนเข้าชมครั้งแรกในเดือนมกราคม 1864 ปัจจุบันเป็นที่รวบรวมผลงานจิตรกรรมมากกว่า 2,500 ชิ้น และงานศิลปะอื่น ๆ มากกว่า 10,000 ชิ้น ในแขนงต่าง ๆ เช่น ภาพเขียนสีน้ำ ภาพลายเส้น ภาพพิมพ์ และประติมากรรม ผลงานจากโรงเรียนจิตรกรรมชั้นนำทุกแห่งในยุโรปก็ถูกนำมาจัดแสดงที่นี่ แกลลอรีแห่งชาติยังเก็บรวบรวมผลงานจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงของศิลปินไอริชเอาไว้มากมาย ไฮไลท์ของแกลลอรีแห่งชาติรวมถึงผลงานของเฟอร์เมร์ (Vermeer), การาวัจโจ (Caravaggio), ปิกัสโซ (Picasso), แวน โก๊ะ (Van Gogh) และโมเนต์ (Monet)

ร้านอาหารไทยที่ตั้งอยู่ในละแวกโรงเรียน (NCG,ATC)

1. MAO DUN Laoghaire
The Pavilion, Queen's Road, Dún Laoghaire, Dun Laoghaire, Co. Dublin, Ireland

2. Camile Thai Dun
3 George's Street Lower, Dún Laoghaire, Dun Laoghaire, Co. Dublin, A96 W963, Ireland

3. TESNACK Thai Takeaway
1 Cross Ave, Dún Laoghaire, Co. Dublin, Ireland


4. Thai House Restaurant
21 Railway Rd, Dalkey, Co. Dublin, Ireland

ร้านอาหารในตัวเมืองดับลิน

1.Koh Restaurant & Cocktail Louge  

6/7 Jervis St, Millennium Walkway, North City, Dublin 1, Ireland

2. Thai Orchid Dublin

7 Westmoreland St, Temple Bar, Dublin, Ireland

3.Thai Jasmine Grab& Go

11 Liffey Street Lower, North City, Dublin 1, Ireland

5. Red Torch Ginger

15 St Andrew's St, Dublin 2, Ireland

6.Saba

22 Baggot Street Upper, Dublin 4, Ireland

6.Chili Club   

1 Anne's Ln, Dublin 2, 2, Ireland

7.Yum Thai Noodle Bar

145 Baggot Street Lower, Dublin 2, D02 EY00, Ireland

8.Chai-Yo

100 Baggot Street Lower, Grand Canal Dock, Dublin, DUBLIN 2, Ireland

9. Yum Thai

Duke St, Dublin, Ireland

10.Mi Thai

87 Manor St, Stoneybatter, Dublin 7, Ireland

11. Thai Spice

3A Talbot Pl, Mountjoy, Dublin 1, D01 R3W9, Ireland

12. Baan Thai Ballsbridge

16 Merrion Rd, Ballsbridge, Dublin 4, Ireland

โรงเรียนภาษาในประเทศไอร์แลนด์

สำหรับการทำงานในที่ประเทศไอร์แลนด์ ของนักเรียนต่างชาตินั้น เหมือนๆกับที่ออสเตรเลียเลยค่ะ ก็คือ เมื่อนักเรียนลงเรียนคอร์สภาษาอย่างน้อย 25 สัปดาห์ นักเรียนจะสามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย 20 ชม./สัปดาห์ ในระหว่างที่เรียนภาษา และทำงานได้มากถึง 40 ชม./สัปดาห์ในช่วง Holiday ซึ่งในการลงทะเบียนเรียน 25 สัปดาห์นั้นน้องๆจะได้ Holiday ถึง 8 สัปดาห์ และในช่วงเวลานี้นักเรียนสามารถทำงานได้ full time หรือ40 ชม./สัปดาห์ เลยทีเดียว แต่ข้อแม้มีอยู่ว่าช่วงที่จะทำงาน full time ได้นั้นต้องเป็นช่วงฤดูร้อนคือ ในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายนและช่วงกลางเดือนธันวาคม – กลางเดือนมกราคมค่ะ ซึ่งการทำงานที่นี่ตอบโจทย์มากสำหรับคนที่อยากจะฝึกภาษากับคนท้องถิ่นย่างจริงจัง เพราะที่ประเทศไอร์แลนด์ยัง มีคนไทยน้อยทำให้ได้ฝึกภาษาอย่างเต็มที่และยังสามารถทำงานเพื่อมาเป็นค่ากินอยู่อีกด้วย.

**ค่าครองชีพในดับลิน
ค่าเดินทาง สัปดาห์ละ : €40
ซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมกับ
2GB + อินเทอร์เน็ต: €20 ต่อเดือน
ค่าสมาชิกยิม: €40/€50 ต่อเดือน
กาแฟแก้วละ : €2.80
แซนวิท จาก ร้านค้า: €5.00
ค่าอาหารหนึ่งมื้อในร้านอาหาร: €15-€20
ขนมปัง: €0.70
ผงซักฟอก 1 กล่อง: €6

  1. New College Group (NCG)

New College Group (NCG) Dublin ตั้งอยู่ 20 นาทีจากใจกลางเมือง มีการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ ด้วยครูผู้สอนที่มีคุณภาพเเละเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะดูเเลนักเรียนอย่างทั่วถึงเเละอบอุ่น ได้รับการรับรองคุณภาพจาก Marketing English in Ireland มีจำนวนนักเรียนยุโรปเรียนถึง 95% NCG ในดับลิน เป็นโรงเรียนสอนภาษาที่ยอดเยี่ยมและมีการรับรองรวมถึงเป็นสมาชิกขององค์กรหลักในประเทศไอร์แลนด์เช่น ACELS และองค์กร Marketing English in Ireland เรามีอาจารย์ที่มีคุณสมบัติสูงที่พร้อมช่วยให้คุณพัฒนาในการเรียนได้

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • General English
  • IELTS Preparation
  • Intensive English
  • Private English Classes

จุดเด่นของสถาบัน

  1. การเรียนการสอนที่มีคุณภาพเพียบพร้อมด้วยคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ พร้อมดูแลเอาใจใส่ดูแลนักเรียนอย่างทั่วถึง
  2. ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้อย่างสะดวกสบาย
  3. มีกิจกรรมต่างๆสำหรับนักเรียนไว้ทำกิจกรรมร่วมกัน
  4. มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สะอาด ทันสมัย เช่น Wi-Fi, ห้องสมุด, ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องนั่งเล่น
  5. มีหลักสูตรภาษาอังกฤษให้เลือกมากมาย ยืดหยุ่นตามความต้องการของแต่ละคน

หลักสูตรที่เปิดสอน

  • General English
  • IELTS Preparation
  • Intensive English
  • Private English Classes

  

2. ATC LANGUAGE SCHOOLS

สถาบันมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาอังกฤษของผู้เรียนด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร ด้วยการจัดสรรค์พท้นที่ในการเรียนอย่างกว้างขวาง และมั่นไว่าผู้ที่มาเรียนนั้นได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ, จึงส่งผลให้การเ รียนภาษาอังกฤษที่นี่จึงเป็นการเรียนรู้ที่น่าจดจำ

หลักสูตรที่เปิดสอน

แบ่งออกเป็น 2 พาร์ท

  • Adult course
    • General and Intensive English
    • Exam Courses
    • Teacher Training
  • Junior Course
    • Summer Course
    • Year Round Course

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ประสบการณ์ และ ความประทับใจ อื่นๆ